วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

สุดยอดชู้ตติ้งการ์ด & สมอลฟอร์เวิร์ด เทรซี แม็คเกรดี (Tracy McGrady)

ตำแหน่ง
ชู้ตติ้งการ์ด & สมอลฟอร์เวิร์ด
ฉายา
T-Mac
ความสูง
6 ฟุต 8 นิ้ว (2.03 ม)
น้ำหนัก
223ปอนด์ (101 กก.)
สัญชาติ
สหรัฐอเมริกา
วันเกิด
24พฤษภาคม พ.ศ. 2522
ดราฟท์
ลำดับที่ 9 ปี 1997 (โทรอนโต แรปเตอรส์)




     เทรซีลามาร์ แม็คเกรดี จูเนียร์ (อังกฤษ: Tracy Lamar McGrady, Jr.) เกิด 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2522 ในเมืองบาร์โลว์ มลรัฐฟลอริดา ชื่อเล่น ที-แมค(T-Mac) เป็นนักบาสเกตบอลตัวจริง เล่นตำแหน่งชู้ตติ้งการ์ดให้ทีมฮิวส์ตันรอกเก็ตส์ในลีกเอ็นบีเอ แต่เขายังสามารถเล่นตำแหน่งสมอลฟอร์เวิร์ดได้ด้วย
     แม็คเกรดี(6 ฟุต 8 นิ้ว 223 ปอนด์) เล่นตำแหน่งชู้ตติ้งการ์ดหรือสมอลฟอร์เวิร์ดเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนแรก ๆที่เข้าสู่เอ็นบีเอจากไฮสกูลโดยตรงโดยไม่เข้าระดับมหาวิทยาลัยเขาจบจากไฮสกูลที่ชื่อ Mt. Zion Christian Academy โดยเล่นได้ผลงานดีในABCD Camp ของอะดีดาสซึ่งเป็นค่ายกีฬาสำหรับนักกีฬาไฮสกูลที่เก่งที่สุดของประเทศเขาได้รับการคัดเลือกตัวเป็นอันดับที่ 9 ในการดราฟรอบแรกของปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ.1997) โดยทีมโทรอนโต แรปเตอรส์ เจอร์รี ครอส (Jerry Krause) ผู้จัดการทีมชิคาโกบุลส์พยายามเทรดสกอตตี พิพเพน (Scottie Pippen) ไปยังแวนคูเวอร์กริซลีส์ แลกกับอันดับการดราฟที่ 4 เพื่อจะเลือกแม็คเกรดี แต่ก็ไม่สำเร็จเนื่องจากไมเคิล จอร์แดนขู่ว่าจะเลิกเล่นหากมีการเทรดนี้เกิดขึ้น
     แม็คเกรดีทำผลงานได้ดีขึ้นต่อเนื่องทุกปีที่เล่นให้กับแรปเตอรส์แต่ไม่ดังเท่าเพื่อนร่วมทีมและลูกพี่ลูกน้อง วินซ์ คาร์เตอร์ (Vince Cartor) ซึ่งมีชื่อเสียงในการดังก์ เขายังเป็นผู้ช่วยคาร์เตอร์ในการแข่งเอ็นบีเอสแลมดังก์ ปี พ.ศ. 2543 ซึ่งเขาก็แข่งในรายการนี้ด้วย คาร์เตอร์รับผิดชอบเป็นตัวทำคะแนนในทีมในขณะที่แม็คเกรดีรับหน้าที่ในการตั้งรับและขัดขวางการทำแต้มของฝ่ายตรงข้ามทั้งคู่ช่วยให้แรปเตอรส์เข้าสู่รอบเพลย์ออฟเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2543แต่ก็ตกรอบแรกโดยแพ้ให้กับทีมนิวยอร์ก นิกส์ในการแข่ง 4 เกม
     ชีวิตการเล่นของแม็คเกรดีก้าวหน้ามากขึ้นเมื่อเขาบังคับให้ทีมเทรดเขาไปยังออร์แลนโดแมจิกแลกกับสิทธิ์การดราฟรอบแรกในปี พ.ศ. 2543เขาได้รางวัลผู้เล่นพัฒนาการดีที่สุด (NBA Most Improved Player Award) และได้เลือกเป็นผู้เล่นตัวจริงในเกมออลสตาร์ ในฤดูกาล 2000-01 (พ.ศ.2543-44) ออร์แลนโดคาดหวังว่า เขาและแกรนท์ ฮิลล์ (Grant Hill) จะเป็นกำลังสำคัญให้ทีม แต่เพราะการบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องของฮิลล์แม็คเกรดีกลายเป็นผู้เล่นสำคัญสุดของแมจิก ในฤดูกาล 2002-03 (พ.ศ. 2545-46)แม็คเกรดีได้ตำแหน่งผู้ทำคะแนนสูงสุดในเอ็นบีเอ โดยทำได้เฉลี่ย 32.1 คะแนนต่อเกมฤดูกาล 2003-04 (พ.ศ. 2546-47) เขาก็ได้ตำแหน่งทำคะแนนสูงสุดอีกครั้งที่ 28คะแนนต่อเกม และทำสถิติสูงสุดของฤดูกาลเมื่อชู้ตได้ 62 คะแนนในการแข่งกับวอชิงตันวิซารดส์เมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2547 และเป็นคนที่สี่ในรอบ 12 ปีที่ทำได้เกิน 60แต้ม
     แต่โชคก็ไม่เข้าข้างหลังจากสิ้นสุดฤดูกาลออร์แลนโดชนะเพียง 21 เกมและได้อันดับสุดท้ายของลีกมีการกล่าวหาว่าเขาไม่ได้เล่นอย่างเต็มที่ตลอดเกม (ซึ่งเขาก็ยอมรับในเวลาต่อมา)ความสัมพันธ์ระหว่างแม็คเกรดีกับผู้จัดการทั่วไป จอห์น ไวส์บรอด (John Weisbrod)แย่ลง และไวส์บรอดตัดสินใจเทรดแม็คเกรดีแทนที่จะเก็บเขาไว้เสี่ยงกับการที่ไม่สามารถเซ็นสัญญาต่อและสูญเสียแม็คเกรดีโดยไม่ได้รับอะไรตอบแทนกลับมา
     เมื่อ29 มิถุนายน พ.ศ. 2547 แม็คเกรดี, ฮวน ฮาวาร์ด (JuwanHoward) , ไทรอน ลู (Tyronn Lue) และ รีสเกเนส (Reece Gaines) ถูกเทรดไปยังฮิวส์ตัน รอกเก็ตส์ในการเทรดผู้เล่น7 คนและได้ สตีฟ แฟรนซิส (Steve Francis) , คัททิโน โมบลี (CuttinoMobley) กับ เควิน เคโต (Kelvin Cato) มายังแมจิกในฤดูกาลแรกกับฮิวส์ตัน แม็คเกรดีร่วมกับเหยา หมิง (Yao Ming) เซ็นเตอร์ 7 ฟุต 6 นิ้วจากประเทศจีน ช่วยให้ทีมจบฤดูกาลที่อันดับห้าในสายตะวันตกตอนเริ่มฤดูกาลทีมทำผลงานไม่ดีเมื่อแม็คเกรดูไม่เหมาะกับแผนการบุกของโค้ช เจฟ แวนกันดี (Jeff Van Gundy) แต่แม็คเกรดีก็ทำให้นักวิจารณ์ประทับใจโดยการปรับตัวให้เข้ากับทีมใหม่และเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบเมื่อ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2547 เขาทำ 13 คะแนนในช่วง 35 วินาทีสุดท้ายในการแข่งกับซานแอนโตนิโอสเปอรส์ เป็นผลงานช่วงสำคัญในเกมที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์เอ็นบีเอฮิวส์ตันชนะไป 81 ต่อ 80
     ถึงแม้ว่าแม็คเกรดีจะเล่นในรอบแรกของเพลย์ออฟดีกว่าคู่แข่งเดิร์ก โนวิตส์กี (Dirk Nowitzki) ฮิวส์ตันตกรอบในเกมสุดท้ายของรอบแรกโดยแพ้ถึง40 คะแนน
     ฤดูกาล2005-06 (พ.ศ. 2548-49) แม็คเกรดี พลาดลงเล่นในแปดเกมแรกจากปัญหาเจ็บหลังอาการบาดเจ็บหลังก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อ 8 มกราคม ค.ศ. 2006จนต้องออกจากเกมในช่วงพักครึ่ง นอนบนเปลส่งโรงพยาบาล หยุดเล่นไปอีก 5 เกมเจ็บหลังยังเป็นปัญหากับแม็คเกรดี รอกเก็ตส์ทำผลงานไม่ดีช่วงที่แม็คเกรดีบาดเจ็บโดยชนะ 2 แพ้ 15 ในเกมที่เขาไม่ลงเล่น และ ชนะ 2 แพ้ 16ในเกมที่แม็คเกรดีเล่นไม่จบเกม
     ฤดูกาล2006-07 แม็คเกรดีเริ่มต้นโดยพัก 7 เกมด้วยปัญหาเจ็บหลังเขาเชื่อว่าเขาไม่สามารถเล่นได้ดีเท่าเมื่อก่อน และยกให้ เหยา หมิงซึ่งมีผลงานที่โดดเด่นในฤดูกาลนั้น เป็นตัวทำคะแนนหลักของทีม แต่ช่วงที่เหยาบาดเจ็บที่ขา แม็คเกรดี ก็กลับมายกระดับการเล่นโดยรวม พาทีมให้ขึ้นสู่อันดับที่5 ของลีก แต่ในเพลย์ออฟ รอกเก็ตส์ยังคงตกรอบแรกโดยพ่ายให้กับทีม ยูทาห์ แจ๊สสี่เกมต่อสาม

รางวัล
- เล่นเกมรวมดารา 7 ครั้ง
- ได้รับเลือกเป็น ออล-เอ็นบีเอ 5 ครั้ง
- ทำคะแนนสูงสุดในเอ็นบีเอตลอดฤดูกาล 2 ครั้ง
- 2000-2001 NBA Most Improved Player



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น